วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ความเสียหายจากภัยธรรมชาติที่สุดจะป้องกัน(นิคมอุตสาหกรรม)

จากสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ส่งผลกระทบสร้างความเสียหายต่อนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 5 แห่งประกอบด้วย 1.นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร 2.นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค(บางหว้า) 3.นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ 4.นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน และ5.นิคมอุตสาหกรรมแฟคตอรี่แลนด์ วังน้อยที่เป็นนิคมฯแห่งสุดท้ายที่ไม่สามารถต้านทานน้ำท่วมเอาไว้ได้ ทั้งนี้ ตัวเลขแรงงานในนิคมอุตสาหกรรมเฉพาะที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมแล้วจำนวน 215,882 คน แบ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร 14,696 คน นนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค 51,186 คน นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน 60,000 คน และนิคมอุตสาหกรรมประกอบการฯโรจนะ 90,000 คน ทั้งหมดจะเป็นแรงงานของบริษัทโดยตรง 60% ส่วนอีก 40% เป็นแรงงานของบริษัทรับช่วงต่อไม่ใช่ของโรงงานในพื้นที่ซึ่งมีประมาณ 86,352 คน มีความเสี่ยงถูกเลิกจ้างมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดปทุมธานี ประกอบนิคมอุตสาหกรรมนวนคร
ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมชิ้นส่วน มีโรงงานอุตสาหกรรมมากถึง 400 โรง มูลค่าการลงทุน 100,000 ล้านบาท และแรงงาน 170,000 คน ซึ่งน้ำได้เข้าท่วมโรงงานทั้งสิ้น 270 โรง นิคมอุตสาหกรรมในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วม
นิคม อุตสาหกรรมแฟคตอรี่แลนด์ โรงงานจำนวน 94 โรง แรงงานจำนวน 6,000-8,000 คน มูลค่าการลงทุน 11,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโรงงานขนาดเล็ก ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร โรงงานจำนวน 49 โรง แรงงานจำนวน 14,696 คน มูลค่าการลงทุน 9,472 ล้านบาท นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค โรงงานจำนวน 143 โรง แรงงานจำนวน 51,186 คน มูลค่าการลงทุน 65,312 ล้านบาท นิคม อุตสาหกรรมโรจนะ โรงงานจำนวน 198 โรง แรงงานจำนวน 90,000 คน มูลค่าการลงทุน 58,000 ล้านบาท บริษัทขนาดใหญ่ที่ได้รับความเสียหายได้แก่ ได้ บริษัท ฮอนด้า บริษัท ออโตโมบาย เป็นบริษัทผลิตรถยนต์มีรถยนต์เสียหาย 200 คัน รวมทั้งบริษัทผลิตกล้องนิคอน ได้รับเสียหายด้วย นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน โรงงานทจำนวน 90 โรง แรงงานจำนวน 60,000 คน มูลค่าการลงทุน 60,000 ล้านบาท มีกิจการเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือวิทยาศาสตร์ ยาง พลาสติก และหนังเทียม เครื่องยนต์ เครื่องจักรและอะไหล่ เหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะ ยานยนต์และการขนส่ง
หมายเหตุ…ไม่รวมพื้นที่ โรงงานอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ใน อ.วังน้อย ซึ่งน้ำเข้าท่วมพื้นที่เสียหายทั้งหมดประมาณ 76 แห่ง
นิคมอุตสาหกรรมในเขตจังหวัดปทุมธานีที่ถูกน้ำท่วมในบางส่วนและเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วม นิคมอุตสาหกรรมนวนคร โรงงานจำนวน 400 โรง แรงงานจำนวน 170,000 คน มูลค่าการลงทุน 100,000 ล้านบาท นิคมอุตสาหกรรมบางกะดี โรงงานจำนวน 44 โรง แรงงานจำนวน 30,000 คน มูลค่าการลงทุน 22,000 ล้านบาท
หมายเหตุ…นิคมอุตสาหกรรมบางกะดี ล่าสุดยังไม่ได้รับผลกระทบ แต่อยู่ระหว่างการเตรียมรับมือน้ำที่จะเข้ามาในพื้นที่ นิคม อุตสาหกรรมในเขตกรุงเทพฯ สมุทรปราการและฉะเชิงเทรา ที่มีความเสี่ยงเพราะอยู่ในตำแหน่งที่น้ำจะผันผ่านก่อนปล่อยสู่ทะเล และบางพื้นที่อยู่ใกล้น้ำท่วม
นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพฯ โรงงานจำนวน 231 โรง แรงงานจำนวน 48,097 คน มูลค่าการลงทุน 89,491 ล้านบาท 
นิคมอุตสาหกรรมบางชัน กรุงเทพฯ โรงงานจำนวน 93 โรง แรงงานจำนวน 13,844 คน มูลค่าการลงทุน 19,848 ล้านบาท 
นิคมอุตสาหกรรมบางพลี สมุทรปราการ โรงงานจำนวน 137 โรง แรงงานจำนวน 22,884 คน มูลค่าการลงทุน 54,291 ล้านบาท 
นิคมอุตสาหกรรมบางปู สมุทรปราการ โรงงานจำนวน 456 โรง แรงงานจำนวน 76,420 คน มูลค่าการลงทุน 105,502 ล้านบาท 
นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ ฉะเชิงเทรา โรงงาน จำนวน 167 โรง แรงงานจำนวน 31,389 คน มูลค่าการลงทุน 770,606 ล้านบาท

วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555

9 อันดับหลุมที่น่าสนใจบนพื้นโลก

9 อันดับหลุมที่น่าสนใจบนพื้นโลก


หลุมที่ 9 Udachnaya Pipe
Click the image to open in full size.
เป็นเหมืองเพชรในไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย ตั้งอยู่แถบขั่วโลกเหนือพิกัด 66°26′N112°19′เริ่มขุดเมื่อปี 1955 และหยุดขุดเมื่อปี 2010 หลุมนี้ความลึก 600 เมตร(วัดเมื่อปี 1980)

หลุมที่ 8 Sinkhole
Click the image to open in full size.
หลุม นี้เกิดจากธรรมชาติ เกิดในกัวเตมาลา ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “หลุมยุบ” เป็นธรณีพิบัติภัยประเภทหนึ่ง เกิดตามธรรมชาติ แต่กิจกรรมของมนุษย์เร่งให้เกิดเร็วขึ้น ส่วนใหญ่พบในภูมิประเทศที่ใต้ผิวดินเป็นหินปูน ดินไดโลไมต์และหินอ่อน ซึ่งหินเหล่านี้ละลายได้ในน้ำใต้ดิน และเมื่อเพดานต้านทานน้ำหนักของดินและสิ่งก่อสร้างกด ทับด้านบนไม่ไหว จึงพังทลายเป็นหลุมยุบ แม้ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากหลุมยุบจะไม่ร้ายแรงเท่ากับ ภัยพิบัติอื่นๆ แต่ก็เป็นสัญญาเตือนอะไรหลายๆ อย่าง เช่นน้ำท่วม แผ่นดินไหว เป็นต้น ซึ่งหลุมที่กัวเตมาลานี้เป็นปรากฏการณ์หลุมยุบที่ใหญ่ ที่สุดในโลก เกิดเมื่อปี 2007 หลุมลึกกว่า 300 ฟุต จากเหตุการณ์นี้ทำให้บ้านที่อยู่ตำแหน่งของหลุมถูกดู ดกลืนไป 12 หลัง และมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ไป 3 คน

หลุมที่ 7 Diavik Mine
Click the image to open in full size.
เป็น เหมืองเพชรที่ชื่อเดียวิค ในแคนาดา หลุมที่ตั้งอยู่ใน 300 กิโลเมตร ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศแคนาดา(เริ่มเปิดเมื ่อ 2003) ผลิตเพชรได้ 8 ล้านกะรัตหรือ 1,600 กิโลกรัม(3,500 lb) ของทุกปี หลุมนี้ยังมีสนามบินส่วนตัวสำหรับวิศวกร

หลุม ที่ 6 Mirany Diamond Mine
Click the image to open in full size.
หรือ เหมืองเพชรยักษ์แห่งเมืองมีร์นึยในไซบีเรีย เขตตะวันออกไกลิ ในนิทานพื้นบ้านของชาวยาคุต มีเรื่องหนึ่งที่บอกว่า เมื่อพระเจ้าผู้สร้างโลก ที่นำเอาทรัพยากรไปโปรยปรายไว้ทั่วโลก เหาะมาถึงดินแดนของพวกเขา พระหัตถ์ของพระองค์ต้องเจอกับความหนาวเหน็บอย่างมาก ถุงใส่เพชรจึงตกลงมา และเพชรเหล่านั้นได้กระจัดกระจายอยู่ทั่วเขตยาคูเตีย

หลุมที่ 5 Great Blueb Hole
Click the image to open in full size.
หรือ หลุมสีน้ำเงินครามแห่งเบไลซ์ อดีตเคยเป็นปล่องภูเขาไฟ อยู่ห่างจากพื้นดินไป 60 ไมล์ ความจริงหลุมแบบนี้มีอยู่ทั่วโลก แต่หลุมนี้นิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด ความกว้างของปากหลุมนั้นมีขนาด 1.5 กิโลเมตร(1000 ฟุต) และ 400 ฟุต นักดำน้ำมักไปแถวๆ นั้นบ่อยๆ (ไปทำไม?? น่ากลัวจะตาย)

หลุมที่ 4 Bingham Canyon Mine
Click the image to open in full size.
เหมือง บิงแฮม ในรัฐยูท่าห์ ถูกจัดอันดับเป็นหลุมที่มนุษย์สร้างที่ใหญ่ที่สุดในโ ลก เริ่มขุดเมื่อปี 1863 ปัจจุบันก็ยังขุดต่อไปเรื่อยๆ หลุมนี้มีความลึกถึง 1500 เมตร และมีขนาดปากหลุม 4 กิโลเมตร

หลุมที่ 3 Monticello Dam
Click the image to open in full size.
หลุม นี้เกิดในเขื่อนในมอนติคาโอ แคลิฟอร์เนีย เป็นหลุมท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ สำหรับรองรับในกรณีน้ำล้นเขื่อนและต้องการระบายออก หลุมนี้รองรับการระบายน้ำ 48,400 ลูกบาศก์ฟุตต่อวินาที

หลุมที่ 2 Kimberley Diamond Mine
Click the image to open in full size.
หลุม คิมมเบอร์รี่ แห่งแอฟริกาใต้ เป็นเหมืองเพชรสร้างขุดด้วยแรงงานกว่า 50,000 คนด้วยมือเปล่า โดยใช้แต่พลั่ว ไม่ใช้เครื่องจักร มีความลึกถึง 1097 เมตร ขุดเพชรได้ 3 ตัน เริ่มขุดปี 1866 ก่อนที่เหมืองนี้จะถูกปิดตัวลงในปี 1914 มีความพยายามอย่างมากที่จะทำให้หลุมนี้เป็นมรดกโลก

หลุมที่ 1 Darvaza Gas Crater
Click the image to open in full size.
ในปี 1971 นักธรณีวิทยาค้นพบหลุมใต้ดินขนาดใหญ่ในพิกัด 40°11′N58°24′E ที่ข้างในเต็มไปด้วยก๊าซพิษธรรมชาติมากมายและลาวา ที่เผาไหม้ยาวนาน 35 ปี หลุมนี้มีขนาดไม่สิ้นสุด มันจะละลายผิวดินรอบๆ ไปเรื่อยไม่มีวันหยุด จะบางทีอาจได้เจอกับมันในอนาคตข้างหน้าก็ได้ ลุมนี้มีชื่อจริงๆ ว่าหลุม Derweze แปลว่าประตู หรือคนท้องถิ่นเรียก ประตูสู่นรก ตั้งอยู่ในเมือง Darvaz เตริกมินิสถาน ปัจจุบันยังไม่มีใครไปสำรวจข้างใน

ประโยชน์ของเครื่องมือทางภูมิศาสตร์


ประโยชน์ของเครื่องมือทางภูมิศาสตร์

1.ทราบตำแหน่งที่ตั้ง  รายละเอียดของบริเวณที่ต้องการ

2.มีความสะดวกรวดเร็วในการดำเนินงาน  และมีความถูกต้อง

3.ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยอยู่เสมอ

4.ช่วยจัดการข้อมูลให้เป็นระเบียบ  ค้นหาข้อมูลได้ง่าย

5.เป็นประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจ  ใช้วางแผนกิจการ

6.เป็นประโยชน์ด้านผังเมือง

วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

พบซากปลาโลมาอิรวดี ลอยตายกลางทะเลอ่าวตราด

พบซากปลาโลมาอิรวดี ลอยตายกลางทะเลอ่าวตราด






 



                ประธานกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเล พบซากปลาโลมาอิรวดี                  ลอยตายกลางทะเลอ่าวตราด คาด ได้รับผลกระทบจากเรือลากคู่ของชาวประมงต่างพื้นที่ที่เข้ามาทำการลากอวน
วันนี้ นายทัศ จิตรสถาพร ประธานกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเล บ้านสะพานหิน ตำบลแหลมกลัด อำเภอเมือง จังหวัดตราด ได้รับแจ้งว่า พบซากปลาโลมาลอยน้ำอยู่ในอ่าวทะเลตราด บ้านสะพานหิน จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าปลาโลมาที่ตายนั้นเป็นปลาโลมาอิรวดีเพศเมีย อายุ ประมาณกว่า 6 เดือน ขนาดลำตัวยาว 120 เซนติเมตร หนักประมาณ 18 กิโลกรัม ตามลำตัวไม่มีร่องรอยบาดแผล เบื้องต้นคาดว่าน่าจะตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง
จากการสอบถาม ประธานกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเล ทราบว่า ปลาโลมาตัวดังกล่าวนั้นถูกพบโดยชาวบ้านที่ออกเรือประมงหาปลาในแถบบ้าน สะพานหิน เนื่องจากบริเวณอ่าวตราดจะมีปลาโลมาอาศัยอยู่กันเป็น จำนวนมากเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวยังมีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรอยู่ แต่ในระยะหลังมีเรือลากคู่ของชาวประมงต่างพื้นที่เข้ามาทำการลากอวน อยู่บ่อยครั้งทำให้ปลาโลมาที่อาศัยอยู่ได้รับผลกระทบ บางตัวถูกใบพัดเรือตีเข้าที่หัวจนเสียชีวิตหรือบางตัวถูกอวนลากเข้าไปและถูกกดทับจนไม่สามารถโผล่ขึ้นมาหายใจได้ทำให้ขาดอากาศหายใจจนตาย เช่นเดียวกับปลาโลมาตัวนี้ที่น่าจะเสียชีวิตด้วยสาเหตุดังกล่าว จึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาดูแลปัญหาอย่างจริงจัง